ปูดีสำหรับคุณหรือไม่?
เชื่อกันว่าปูเป็นอาหารที่พบได้มากที่สุดในบริเวณชายฝั่งทะเล ปูมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยพัฒนาสมอง ทำให้สมองแข็งแรง และยังลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ ปูยังมีวิตามิน สารอาหารประเภทบี 12 ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคขาดวิตามิน นอกจากนี้ ปูยังมีโปรตีนซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างร่างกาย และบำรุงกล้ามเนื้อ หากรับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ปูมีซีลีเนียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ประกอบด้วยไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) ผลิตสเตียรอยด์และเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตตามปกติ การบำรุงผิวพรรณ ดวงตา และระบบประสาท ดังนั้นจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของโครงกระดูกและพัฒนาการ
จริงหรือไม่ที่แนะนำให้บริโภคปูทุกวัน?
ปูเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ที่ดี เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 การบริโภคสารอาหารเหล่านี้มากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
ปูมีคอเลสเตอรอลสูง การบริโภคคอเลสเตอรอลมากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น หัวใจวาย ระดับคอเลสเตอรอลสูงยังสามารถนำไปสู่การแข็งตัวของเลือด ซึ่งขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและทำให้อวัยวะและเนื้อเยื่อเสียหายได้
อีกทั้งระดับคอเลสเตอรอลที่สูงยังสามารถนำไปสู่การเกิดโรคไขมันพอกตับ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายของตับได้
นอกจากนี้ ปูอาจมีสารปรอทในปริมาณสูง การบริโภคปรอทมากเกินไปอาจนำไปสู่ความเสียหายของไต ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
เคล็ดลับการเก็บรักษาปูมีอะไรบ้าง?
สิ่งสำคัญคือ ต้องปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บที่ถูกต้องสำหรับปูเพื่อให้แน่ใจว่าปูจะสดและมีคุณภาพสูง ต่อไปนี้คือวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บปู:
เก็บในตู้เย็น: เก็บปูไว้ในถุงพลาสติกหรือภาชนะปิดมิดชิด จากนั้นเก็บไว้ในส่วนที่เย็นที่สุดของตู้เย็น เพื่อความสดสูงสุดควรใช้ปูภายในสองวัน
การปรุงอาหารและการแช่แข็ง: เป็นวิธีการที่ดีในการจัดเก็บปูและทำให้มั่นใจว่าปูจะสดและมีคุณภาพดี โดยการแช่แข็ง คุณจะต้องทำความสะอาดปู ปรุงอาหาร ทำให้เย็น จากนั้นใส่ปูลงในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บไว้ในส่วนที่เย็นที่สุดของช่องแช่แข็ง